ปัญหาราคาข้าวปัญหาของชาวนาไทยที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

ปัญหาราคาข้าวปัญหาของชาวนาไทยที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

ปัญหาราคาข้าวปัญหาของชาวนาไทยที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังในความเป็นจริงมาตรการแก้ปัญหาราคาข้าวโดยการรับจำนำที่ผ่านก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมเท่าที่ควร  เรียกได้ว่าไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้  ถือให้ชาวนาได้ประโยชน์จากการประกันราคาข้าวมากที่สุด  และรัฐบาลเสียเงินส่วนต่างกับราคาขายจริงให้น้อยที่สุด  แต่ในความเป็นจริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่  ความจริง ชาวนาก็ยังได้รับประโยชน์จากการประกันราคาข้าวเพียง่ได้ราคาดีขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง ในขณะที่รัฐบาลก็ยัง คงเสียเงินส่วนต่างในราคาสูงเหมือนเดิม  คนที่ได้ประโยชน์จริง ๆ แล้วเป็นโรงสีข้าว นายทุน พ่อค้าคนกลาง   สมัยรัฐบาลคุณสมัคร สุนทรเวช  ราคาประกันที่ 14000 บาท/เกวียน  แต่ชาวนา จำหน่ายข้าวได้ในราคา 11000-12000 บาทเท่านั้น   บางรายไปขอจำนำกับทางโรงสี  ทางโรงสีก็ไม่รับจำนำ  บางรายเข้าคิวเพื่อจะ  จำหน่ายข้าวในราคาประกันกับโรงสีต้องเข้าคิวรอถึง  48  ชั่วโมง   ครันจะไปขายกับโรงสีหรือนายทุนอื่นที่โดยไม่ผ่านการประกันราคาก็ได้ราคาเพียงเกวียนละ 9000 บาท ซึ่งต่ำกว่าโรงสีที่เข้าร่วมโครงการกับรัฐบาล  (ถูกกว่าราคาประกันมาก) ต่อมาในสมัยคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ มีโครงการประกันราคาข้าว  ในราคา 12000บาท/เกวียน โครงการเริ่มใช้ 1 พ.ย. 51 กว่าจะขายข้าวในราคาประกันได้ก็ช่วงปลายเดือน พ.ย.   ซึ่งในความป็นจริงชาวนาขายข้าวได้แรกๆ  ราคาอยู่ที่ 10800 บาท/เกวียน   ส่วนราคาที่ไม่ได้ผ่านการประกันราคาข้าว   หรือไปขายโรงสีที่ไม่รับจำนำได้ราคาที่ต่ำกว่า ประมาณ 25 – 30 %   สำหรับปัญหาก็ไม่ได้จบเพียงแค่ราคาข้าวอย่างเดียวอีกปัญหาหนึ่งของชาวนาเกี่ยวกับการประกันราคาข้าวของรัฐบาล  คือ  การขายข้าวให้กับโรงสี ที่ร่วมโครงการนับตั้งแต่วันที่ขายโรงสีจะบอกชาวนาเลยว่าเป็นการฝากข้าวไว้ก่อน   ไม่รู้ว่าใบประทวนจะออก วันไหนนั่นก็หมายถึงว่าชาวนาก็ไม่รู้ชะตากรรมว่าจะได้เงินเมื่อไหร่  ชาวนาบางท่านบอกว่า 45 วันแล้วยังไม่ได้รับเงินจากการขายข้าวในราคาประกันเลย และต่อมาสมัยนายกอภิสิทธิ์ ปัญหาการประกันราคาข้าวก็ยังไม่ลงตัวอีก จึงมีการประชุม ครม.เห็นชอบราคารับประกันข้าว ฤดูกาลผลิต 2553/2554 ในอัตรา คือ ตันละ 1 หมื่นบาท ขณะที่ชาวนาทั่วประเทศเตรียมเดินเท้าเข้ากรุงเทพ เรียกร้องให้เพิ่มราคาประกันเป็นตันละ 1.4 หมื่นบาท เพื่อให้คุ้มกับต้นทุนที่สูงถึงไร่ละ 9 พันบาท  ครม. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ในการกำหนดราคารับประกันข้าวฤดูกาลผลิต 2553/2554 ที่ให้ยืนในอัตราเดิม คือ ข้าวหอมปทุมธานี 1 ราคารับประกันตันละ 11,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 9,500 บาท พร้อมทั้งให้ยืนปริมาณการรับประกันไว้ที่ 25 ตันต่อครอบครัว ยกเว้นข้าวเปลือกเหนียวที่ให้เพิ่มจาก 16 ตัน เป็น 25 ตัน และยังให้คำนวณผลผลิตต่อไร่เป็นรายจังหวัดเหมือนเดิม มติ ครม. ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวนาทั่วประเทศที่  ได้ยื่น ข้อเสนอให้เพิ่มราคาประกันข้าวเปลือกเจ้าเป็นตันละ 14,000 บาท 
        โดยนายวิเชียร พวงลำเจียก อุปนายกสมาคมชาวนาไทย บอกว่า ปัจจุบันต้นทุนการผลิตต่อไร่สูงถึง 6,000 บาท ซึ่งข้าว 1 ตันต้องใช้นา 1.2 ไร่ ซึ่งเท่ากับต้นทุนต่อตันจะสูงถึง 9,000 บาท ขณะที่รัฐบาลประกาศราคาอ้างอิงที่ 8,500 บาท และเมื่อชาวนาเอาข้าวไปขายจริงได้เพียงตันละ 7,000 บาทเท่านั้น เนื่องจากต้องมีการตัดเปอร์เซ็นต์ความชื่น ซึ่งปัจจุบันเป็นการเก็บเกี่ยวข้าวสด ความชื้นเฉลี่ยจะอยู่ที่ 25 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ความชื้นที่รัฐบาลกำหนดราคารับประกันอยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์แล้วเมื่อไหร่ละ ชาวนาไทยจะพ้นวังวนนี้เสียที เราก็หวังว่า การจำนำราคาข้าว ในยุคสมัยรัฐบาลพรรคเพือไทย น่าจะดีกว่าเพราะเห็นช่องโหว่ของปัญหาแล้ว

 

Leave a Reply

Free Web Hosting